กลางปี 2019 บนเวทีการประชุมวิชาการด้านโภชนาการระดับภูมิภาคเอเชีย นักวิชาการ นักวิจัยในแวดวงโภชนการกำลังยืนปรบมืออย่างกึกก้องให้กับ แอชลีย์ เหวง นักวิจัยสาวชาวเอเชียตัวเล็กๆคนหนึ่งที่ยืนอยู่กลางเวที ท่ามกลางนักวิจัยด้านโภชนาการและผู้เชี่ยวชาญทางด้านการวางแผนการรับประทานอาหาร ในระดับโลก ภายหลังจากที่เธอได้คิดค้นสูตรการลดน้ำหนัก ที่สามารถลดน้ำหนักได้ภายในเวลาอันสั้น โดยไม่ต้องคุมอาหารหรือออกกำลังกาย

งานวิจัยของ แอชลีย์ ถือว่าเป็นการค้นพบกลไกสำคัญในการลดน้ำหนักครั้งสำคัญของวงการโภชนาการระดับสูง ก่อนที่จะร่วมพัฒนากับผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนบำบัดและระบบเผาผลาญไขมัน ในการศึกษาวิจัยส่วนผสมที่ทำมาจากสารสกัดธรรมชาติที่มีผลกับกลไกการลดน้ำหนัก เป็นไปตามแบบแผนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ จนสามารถคิดค้นผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักออกมาได้สำเร็จ และให้ผลลัพธ์ในการลดน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพสูง

นวัตกรรมใหม่ในการลดน้ำหนักนี้จะสามารถช่วยเหลือคนที่มีปัญหาน้ำหนักตัวได้อย่างไร และทำไมคนไทยสมควรได้รับส่วนลด 50% สำหรับผลิตภัณฑ์ที่จะแนะนำให้รู้จักในวันนี้

ผู้สื่อข่าว: คุณแอชลีย์คะ เราทราบมาว่า คุณคือ อดีตนักเรียนทุนทางด้านโภชนาการ ดีกรีเหรียญทองวิชาการ จากวิทยาลัยด้านโภชนาการและสุขภาพระดับท็อปของภูมิภาคเอเชีย ทำไมคุณถึงสนใจเรื่องโภชนาการกับการลดน้ำหนักถึงขั้นทำวิจัยเรื่องนี้อย่างจริงจัง จนสามารถคว้ารางวัลผลงานวิจัยโภชนาการชั้นสูงคะ?

คุณแอชลีย์: คุณเคยสงสัยมั้ยว่า ทำไมอาหารแบบเดียวกัน บางคนกินนิดเดียวก็ยังอ้วน บางคนกินเยอะแยะ กลับไม่อ้วนเลย? สารอาหารที่เราได้รับจากอาหารแต่ละประเภท ไปส่งผลต่อร่างกายของเราอย่างไร ทำไมแต่ละคนจึงให้ผลลัพธ์แตกต่างกัน เช่น บางคนมีระบบเผาผลาญเร็วกว่าปกติ ทำให้กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ในขณะที่ร่างกายของบางคนระบบเผาผลาญต่ำมากๆ กินนิดหน่อยก็อ้วนขึ้นแล้ว สำหรับคนทั่วไปเรื่องนี้อาจจะเข้าใจยากนิดนึง ดังนั้นดิฉันเลยตัดสินใจเลือกเรียนด้านโภชนาการในระดับปริญญาโท และปริญญาเอก เพื่อหาคำตอบกับเรื่องเหล่านี้ค่ะ

ผู้สื่อข่าว: แต่การที่คนเราจะจริงจังกับเรื่องนี้ได้ขนาดนี้ มันต้องมีปมหรือมีแรงจูงใจอะไรก่อนหรือเปล่าคะ?

คุณแอชลีย์: ใช่ค่ะ แรงจูงใจสำคัญเลยก็คือ คนใกล้ตัวของฉันเอง ดิฉันเฝ้าดูพวกเขาทุกข์ทรมานกับปัญหาเรื่องความอ้วนมาตั้งแต่เด็กๆ ญาติคนหนึ่งเคยกินผลิตภัณฑ์สำหรับช่วยลดลดน้ำหนัก แรกๆ ก็เห็นผลดี แต่พอนานวันเข้าเริ่มไม่เห็นผล ร่างกายก็โทรมลงเรื่อยๆ สุดท้ายป่วยและเสียชีวิตเพราะไตวายจากผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักนั่นเอง ส่วนน้องสาวของฉันสมัยเป็นวัยรุ่นเคยใช้บริการสถาบันเสริมความงามที่มีโปรแกรมลดน้ำหนักที่เห็นผล แต่สุดท้ายก็กลับมาโยโย่ หรืออ้วนหนักกว่าเดิมนั้นเอง เลยเกิดคำถามกับตัวเองว่า ทำไมเราไม่มีวิธีการลดน้ำหนักที่ได้ผลลัพธ์แบบถาวร

ผู้สื่อข่าว: แล้วจากงานวิจัยจากผลงานวิจัยโภชนาการชั้นสูงมาสู่ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักที่แก้ปัญหาได้ตรงจุดได้อย่างไร?

คุณแอชลีย์: ระหว่างที่ฉันทำการวิจัย สิ่งที่ค้นพบนั่นคือ การอดอาหาร ลดปริมาณทานอาหาร หรือกินผลิตภัณฑ์สำหรับช่วยลดน้ำหนัก หรือใช้เครื่องสลายไขมันตามสถาบันลดน้ำหนักต่างๆ เป็นเพียงเทคนิคการกำจัดไขมันแบบชั่วคราวเท่านั้น! แต่สิ่งที่จะทำให้การควบคุมน้ำหนัก กำจัดไขมันแบบยั่งยืนและเห็นผลได้จริง หัวใจสำคัญอยู่ที่ระบบเผาผลาญในร่างกายและสารสกัดธรรมชาติเข้มข้นที่ให้ประสิทธิภาพสูงในการเร่งระบบเผาผลาญไขมัน ที่ดิฉันได้เข้าร่วมการพัฒนากับทีมนักวิชาการด้านโภชนการและสุขภาพนานาชาติค่ะ

ผู้สื่อข่าว: หืมม...ผลิตภัณฑ์นี้ นอกจากคุณแอชลีย์แล้ว ยังมีผู้ร่วมพัฒนาสูตรคนอื่นด้วยหรอคะ?

คุณแอชลีย์: ใช่ค่ะ งานวิจัยของฉันได้รับความสนใจทั้งนักธุรกิจ นักลงทุน เจ้าของธุรกิจความงามหลายราย พยายามติดต่อดิฉันทุกทาง เพื่อขอซื้อลิขสิทธิ์ผลงานวิจัยชิ้นนี้ จำนวนเงินที่เสนอให้ เรียกว่ากินใช้ชาตินี้ก็ยังเหลือ แต่ว่าฉันได้ปฏิเสธไป เพราะฉันรู้สึกสงสารคนที่ต้องมาจ่ายเงินมหาศาลให้กับการหาวิธีกำจัดไขมัน ลดน้ำหนัก แทนที่จะมีโอกาสได้ใช้ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักที่ให้ผลแบบยั่งยืน เห็นผลจริงและยังปลอดภัย ในราคาที่จับต้องได้

ที่ปรึกษางานวิจัยของดิฉันได้แนะนำว่า น่าเสียดายถ้างานวิจัยชิ้นนี้ไม่ได้ถูกทำให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ดีๆ เพื่อออกมาแก้ปัญหาให้กับคนอื่นๆอย่างแท้จริง เขาได้แนะนำฉันให้ทำงานร่วมกับทีมวิจัยผลิตภัณฑ์นี้ ต้องบอกว่าฉันเองโชคดีมากที่ได้ร่วมงานกับนักวิจัยเก่งๆกลุ่มนี้ พวกเขามีประสบการณ์ตรงและทำงานกับเรื่องนี้มานานพอควร มันเยี่ยมมากเลยค่ะ โดยเฉพาะ คุณซารี โลราเปส นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านทางด้านโภชนบำบัดและระบบเผาผลาญไขมัน ที่กำลังทำวิจัย “อ้วนลงพุง” อยู่พอดี

ผู้สื่อข่าว: เราลองมาฟัง คุณซารี โลราเปส เล่าถึงรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ตัวใหม่นี้กันและฟังมุมมองต่อผลิตภัณฑ์นี้ในฐานะนักวิชาการชำนาญการด้านทางด้านโภชนาการระดับอาวุโส

ผู้สื่อข่าว: สวัสดีค่ะ คุณซารี การค้นพบของคุณแอชลีย์ ช่วยจุดประกายความหวังให้กับคนที่ต้องการลดน้ำหนักโดยไม่ต้องคุมอาหารหรือออกกำลังกายได้จริงหรือคะ?

คุณซารี: งานวิจัยของแอชลีย์คือการชี้ทางสว่างให้กับปัญหาเรื่องไขมันส่วนเกินที่ยั่งยืนค่ะ ความสามารถของมันก็คือการเข้าไปเร่งระบบเผาผลาญไขมันให้ทำงานเข้มข้นขึ้น ด้วยส่วนประกอบที่เป็นสุดยอดสารสกัดจากธรรมชาติที่มีสรรพคุณ ดักจับไขมันที่เกาะตามลำไส้และผนังกระเพาะอาหาร เพื่อช่วยให้การดูดซึมดีขึ้น พร้อมกับเร่งการเผาผลาญไขมันไปพร้อมกัน รักษาสมดุลการเผาผลาญ และดักจับไขมันใหม่ไม่ให้กลับมาสะสมในร่างกายอีก ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะอ้วนลงพุงที่พบมากในคนเอเชียค่ะ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมนี้มีชื่อว่า Keto Eat&Fit ค่ะ ข่าวดีก็คือ ตอนนี้ Keto Eat&Fit มีการจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว และมั่นใจว่าคนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ตัวนี้ได้อย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าว: แสดงว่าคุณค่อนข้างมั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะมาช่วยแก้ปัญหาสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักส่วนเกิน หรืออ้วนลงพุงได้จริง?

คุณซารี: แน่นอนค่ะ Keto Eat&Fit ผ่านการทดสอบและรับรองมาตรฐานระดับสากลว่าสามารถเข้าไปกระตุ้นและเร่งการทำงานของระบบ เผาผลาญไขมันในร่างกายเราได้ ช่วยฟื้นฟูระบบการทำงานภายในร่างกายให้กลับมาเป็นปกติ กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อและลดความอยากอาหารลงได้ ที่สำคัญปลอดภัยเพราะเป็นสารสกัดที่ได้จากธรรมชาติล้วน ออร์แกนิก 100%

ผลิตภัณฑ์ Keto Eat&Fit 1 แคปซูล อุดมไปด้วยส่วนผสมที่มีสารสกัดจากธรรมชาติเข้มข้น 100% ในปริมาณ 1,000 มิลลิกรัม เช่น แอล-คาร์นิทีน (เพิ่มประสิทธิภาพความอดทนและลดความเหนื่อยล้า), สารสกัดจากส้มแขก (เพิ่มระดับเซโรโทนินซึ่งช่วยลดความหิว), สารสกัดจากใบชาเขียว (ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกาย), สารสกัดจากถั่วขาว (ผลิตสารที่ขัดขวางการทำงานของเอนไซม์อะไมเลสซึ่งจำเป็นสำหรับการสลายคาร์โบไฮเดรต ซึ่งคาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งแคลอรี่หลักหากไม่ถูกเผาผลาญเป็นสารเมตาโบไลต์ร่างกายจะไม่ดูดซึม), สารสกัดจากรำข้าวโอ๊ต (ให้ความรู้สึกอิ่มเอิบช่วยลดคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเลือด), ผงพริกไทยดำ (ช่วยเพิ่มการย่อยอาหาร), ไคโตซาน (ลดการดูดซึมไขมัน) โดยเฉพาะโครเมียมพิโคลิเนต ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ (ลดความอยากน้ำตาล) เราแนะนำให้ทานติดต่อกัน 30 วัน เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน

ผู้สื่อข่าว: กลับมาที่คุณแอชลีย์ค่ะ ช่วยเล่าให้เราฟังหน่อยว่าผลลัพธ์ของผลิตภัณฑ์นี้เป็นอย่างไรบ้าง?

คุณแอชลีย์: คุณต้องไม่เชื่อแน่ ผลิตภัณฑ์ตัวนี้สามารถช่วยลดน้ำหนักได้มากกว่า 10 กก. ภายในเดือนเดียว! เฉลี่ยแล้ว น้ำหนักตัวจะลดลง สัปดาห์ละ 2-4 กก. ทีเดียว Keto Eat&Fitประสิทธิภาพสูงกว่าเทคนิคการลดน้ำหนักแบบเดิมๆ ได้ถึง 10 เท่า! ไขมันที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกายจะถูกเผาผลาญด้วยความเร็วถึง 0.5 กก./วันผลิตภัณฑ์ของเราเป็นผลิตภัณฑ์เดียวในเวลานี้ที่สามารถทำได้ ปลอดภัยเพราะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ย้ำเลยว่าทุกคนสามารถใช้ได้ ไม่ว่าจะเพศไหน อายุเท่าไร ใช้ได้ทุกคน ถ้าคุณมีปัญหาไขมันในหลอดเลือดสูง หรือมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วนKeto Eat&Fit คือคำตอบที่คุณต้องการ!

ผู้สื่อข่าว: ทั้งคุณและคุณซารีต่างก็เชื่อมั่นในประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ตัวนี้ แต่ดูเหมือนว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในเมืองไทยเท่าไหร่นะ?

คุณแอชลีย์: ใช่ค่ะ ตอนนี้ Keto Eat&Fit ยังไม่ได้วางจำหน่ายตามห้างร้านทั่วไปหรือในร้านเภสัชกรรมทั่วไป มันมีความจริงที่โหดร้ายซ่อนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เจ้าของธุรกิจสถาบันลดน้ำหนักหรือจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักที่เคยถูกเราปฏิเสธจะขายสูตรให้ พยายามใช้คอนเนคชั่นของพวกเขากีดกัน โจมตี ดิสเครดิตผลิตภัณฑ์ของเรามาตลอด เพื่อไม่ให้เรามีพื้นที่ที่จะเข้าถึงคนที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวได้

พวกเขาเห็นแล้วว่า Keto Eat&Fit คือผู้ที่จะมาพลิกวงการโภชนาการและการลดน้ำหนักชนิดที่ยังไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน แน่นอนว่า หากสูตรนี้พัฒนาสำเร็จและเปิดตัวเมื่อไหร่ นี่จะเป็นนวัตกรรมการลดน้ำหนักที่จะทำให้สถาบันลดน้ำหนักต่างๆ อาจต้องปิดตัวลง!

ผู้สื่อข่าว: ที่คุณบอกว่า เมื่อ Keto Eat&Fit เข้าถึงผู้บริโภคเมื่อไหร่ สถาบันลดน้ำหนักเมืองไทยอาจต้องปิดตัวหรือสูญเสียเงินหลายบาท ทำไมถึงเป็นแบบนั้น

คุณแอชลีย์: ถ้าเทียบ Keto Eat&Fit ราคาไม่ถึงพัน แต่อัดแน่นด้วยสารสกัดธรรมชาติมากถึง 1,000 มิลลิกรัม (ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักทั่วไปจะให้ปริมาณสารสกัดจากธรรมชาติเพียง 500 มิลลกรัมเท่านั้น) ที่คอยดักจับไขมัน กระตุ้นการทำงานระบบเผาผลาญ และขับเอาสารอนุมูลอิสระออกจากร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ลดน้ำหนักลง โดยที่ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับการออกกำลังกาย หรือต้องอดอาหาร หรือต้องไปจ่ายเงินค่าคอร์สแพงๆ ในการกำจัดไขมันส่วนเกินอีกต่อไป

ผู้สื่อข่าว: คำถามสุดท้ายค่ะ คุณและทีมฯวางแผนกันอย่างไรเพื่อให้ Keto Eat&Fit เข้าถึงมือผู้บริโภคได้ล่ะ ในเมื่อไม่สามารถวางจำหน่ายตามห้างร้านได้

คุณแอชลีย์: เราพยายามเจรจากับห้างร้านเหล่านี้มาตลอดค่ะ แต่ยังไม่มีข้อสรุปออกมา ระหว่างนี้เราเตรียมเปิดช่องทางจำหน่ายออนไลน์ไว้แล้ว คนที่ต้องการสั่งซื้อ Keto Eat&Fit สามารถเข้าไปกรอกรายละเอียดที่หน้าเว็บไซต์ทางการของ Keto Eat&Fit ซึ่งขั้นตอนนั้นง่ายมาก แค่เพียงกรอกชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของคุณเอาไว้ เราออกแบบให้ใช้งานง่ายมากๆ และสามารถกรอกแบบฟอร์มสั่งซื้อผ่านทางมือถือได้ด้วย

หลังจากนั้น จะมีที่ปรึกษาด้านโภชนาการติดต่อกลับไป และดำเนินการจัดส่งสินค้าให้ โดยในช่วงแรกเราจะเปิดให้สั่งซื้อ Keto Eat&Fit ผ่านหน้าเว็บไซต์ สำหรับใครที่เข้าไปกรอกแบบฟอร์มสั่งซื้อสินค้าก่อนวันที่ วันจันทร์ที่ 2564 รับส่วนลด Keto Eat&Fit พิเศษสุด 50%